วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ประวัติวง Led Zeppelin



กำเนิด Led Zeppelin
หลังจากได้ร่วมทำงานในอัลบั้มสุดท้าย ก่อนที่ The Yardbirds จะสลายวงในปี 1967 จิมมี่ เพจ (Jimmy Page) มือกีตาร์ของวงก็ต้องกลับไปเป็น “มือปืนรับจ้าง” ใน ห้องบันทึกเสียงเหมือนอย่างเก่า แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เริ่มฟอร์มวงขึ้น มา โดยชักชวนพรรคพวกที่เป็นนักดนตรีรับจ้างด้วยกันคือ จอห์น พอล โจนส์ (John Paul Jones) มือเบสส์ กับเทอร์รี่ เรลด์ (Terry Reld) นัก ร้อง และบี.เจ. วิลสัน (B.J. Wilson) มือกลองของวง Procol Harum เข้าร่วมฟอร์มวง

แต่ทั้งเทอร์รี่ เรลด์ และบี.เจ. วิลสัน กลับปฏิเสธ...อย่างไรก็ตามเทอร์รี่ เรลด์ได้แนะนำและติดต่อ โรเบิร์ต แพนท์ (Robert Plant) นักร้องของวง Hobbstweedle ให้ เข้ามาแทน ซึ่งทั้งสองก็ศรศิลป์กินกัน เพราะจิมมี่ เพจ ชื่นชอบในเสียงร้อง ของโรเบิร์ต แพลนท์ ตั้งแต่หนแรกที่ได้ยิน ส่วนตัวของโรเบิร์ต แพลนท์เองก็ ไม่ปฏิเสธ เพราะคุ้นเคยกับฝีมือและชื่อเสียงของจิมมี่ เพจ สมัยอยู่กับวง The Yardbirds เป็นอย่างดี และเมื่อรู้ว่ายังขาดมือกลองอยู่ โรเบิร์ต แพลนท์ ก็แนะนำจอห์น บอนแฮม (John Bonham) มือกลองวงเก่าของตัวเองคือ Band of Joy ให้ จิมมี่ เพจได้พิจารณา และเมื่อได้เห็นฝีมือหวดกลองของจอห์น บอนแฮม ทางจิ มมี่ เพจก็ไม่รอช้ารีบชักชวนให้เข้ามาร่วมวงทันที ซึ่งจอห์น บอนแฮมก็ไม่ ปฏิเสธเช่นกัน


ดังนั้นในเดือนกันยายน ปี 1968 ทั้ง 4 คนจึงได้เปิดตัววงใหม่ ขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า New Yardbirds

ด้วยที่แต่ละคนก็มีฝีมือ และผ่านสังเวียนดนตรีมามากพอ เพราะฉะนั้นพอตั้งวงกันได้พวกเขาก็เดินเข้า ห้องอัดเสียงทันที และพอบันทึกเสียงเสร็จพวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่าให้ เปลี่ยนชื่อวงใหม่เป็น Led Zeppelin รวมทั้งใช้ชื่ออัลบั้มว่า Led Zeppelin I...อัลบั้ม ชุดนี้ออกวางในปี 1969 และออกวางได้เพียงเดือนเศษก็สามารถไต่อันดับขึ้นไป ถึงอันดับ Top 10 ของอเมริกาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อประสบกับความสำเร็จที่ เกินคาด Led Zeppelin ใช้เวลาตลอดทั้งปี 1969 ที่เหลือหมดไปกับการทัวร์ คอนเสิร์ต และพร้อมกับทำงานชุดที่ 2 Led Zeppelin II ควบ คู่กันไปด้วย

และในเดือนตุลาคมของปีเดียวกัน( ปี 1969) อัลบั้ม Led Zeppelin II ก็ ออกวางตลาด และก็เหมือนกับอัลบั้มแรก คือประสบกับความสำเร็จอ่างท่วมท้นเช่น เดียวกัน รวมทั้งสามารถไต่อันดับชาร์ทขึ้นไปอยู่อันดับ 1 ในเวลา เพียง 7 สัปดาห์



ในปี
1970 อัลบั้มชุดที่ 3 Led Zeppelin III ก็ตามออกมาติดๆ และในอัลบั้มชุดนี้ทางวงก็ได้นำ British Folk เข้ามาผสม

ในปี 1971 มีอัลบั้มชุดที่ 4 Led Zeppelin IV ที่ออกวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 1971 เพลงในชุดนี้แม้จะคงความเป็นร็อคที่จัดจ้านและหนักหน่วงอย่างเพลง Black Dog ที่ตัดออกมาเป็นซิงเกิ้ล


แต่ในเพลงอื่นๆก็ยังผสม Folk เข้าไปไว้อย่างสวยงามอย่างเช่น The Battle of Evermore หรืออย่างเพลง Stairway to Heaven ก็ มีเนื้อหาที่กินใจและทำนองที่ไพเราะ และได้รับความนิยมมากกว่า เพลง Black Dog ที่ตัดออกมาเป็นซิงเกิ้ลเสียอีก และอัลบั้มชุดนี้ประสบความ สำเร็จอย่างสูง เพราะสามารถขายได้ถึง 16 ล้านแผ่น



ในปี 1973 อัลบั้มชุดที่ 5 House of the Holy ก็ ตามออกมาด้วยสีสันของดนตรีที่มี Funk และ Reggae เข้ามาผสมโดยอยู่ภายใต้ โครงสร้างของร็อคหนักๆเช่นเดิม ในปีนี้พวกเขาได้แสดงคอนเสิร์ตที่เมดิ สัน สแคว์ การ์เดน และการแสดงครั้งนี้ได้ถูกบันทึกเป็นภาพยนตร์โดยใช้ชื่อ ว่า The Song Remains the Same และนำออกมาฉายในอีก 3 ปีให้หลัง รวมทั้งได้ทรานเฟอร์มาเป็นแผ่นดีวีดีในอีกหลายๆปีต่อมา



ในปี
1974 พวก เขาไม่มีงานทัวร์คอนเสิร์ต และงานเพลงในสตูดืโอออกมา เพราะพวกเขาไปหมกมุ่น อยู่กับการเปิดสังกัด Swan Song ของตัวเองขึ้นมา เพื่อผลิตงานของตัวเองรวม ทั้งรับวงดนตรีที่อยู่ในแวดวงของร็อคด้วยกัน อาทิ เช่น Bad Company, Pretty Things และ Dave Edmund เข้ามาอยู่ในสังกัด...

ใน ปี 1975 พวกเขาก็ออกอัลบั้มชุดที่ 6 ออกมาเป็นอัลบั้มคู่ชื่อ Physical Graffiti ซึ่ง ก็ได้รับความสำเร็จด้วยดีเหมือนกับอัลบั้มก่อนๆที่ผ่านมา และสามารถติดชาร์ททั้งในอเมริกาและอังกฤษในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน ทำให้พวกเขาต้องกำหนด
ตาราง ทัวร์คอนเสิร์ตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่แล้วก็มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นมา เมื่อ โรเบิร์ต แพลนท์และภรรยาประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ โรเบิร์ต แพ ลนท์เดี้ยงยาว ต้องหยุดพักรักษาตัว ตารางทัวร์คอนเสิร์ตก็ต้องล้มเลิกไปโดย ปริยาย



จนถึงปี 1976 Led Zeppelin ก็กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้ม Presence ซึ่งก็ถูกตอบรับอย่างดีจากสาวกของพวกเขา แต่กับกระแสวิจารณ์ไม่มีใครพูดถึง กันมากนัก สาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากอัลบั้มชุดนี้ออกขายพร้อมๆกับการออกฉายของ ภาพยนตร์ The Song Remains the Same ที่น่าสนใจกว่า แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ทำ ให้ยอดขายของอัลบั้มชุดนี้ตกลงแต่อย่างใด รวมทั้งยังติดอันดับชาร์ทเหมือนกับทุกอัลบั้มที่ผ่านมา...หลังจากอัลบั้ม ชุด Presence ออกวางจำหน่ายได้ไม่นาน ตารางการทัวร์คอนเสิร์ตของทางวงก็ถูก กำหนดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อการทัวร์คอนเสิร์ตเริ่มได้เพียง 2 เดือน เหตุการณ์ ร้ายที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับ โรเบิร์ต แพลนท์เข้าอีกจนได้ คราวนี้บุตรชาย อายุ 6 ขวบของเขาเสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อในกระเพาะอาหาร โรเบิร์ต แพลนท์ ไม่มีจิตใจที่จะร่วมแสดงคอนเสิร์ตที่เหลือได้อีกต่อไป ทำให้ทางวง ต้องยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ตที่เหลือไปโดยปริยาย...โรเบิร์ต แพลนท์แยกตัว จากวงไปอยู่อย่างสันโดษ เพื่อลืมเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ส่วน สมาชิกอื่นๆของวงก็เก็บตัวกันเงียบ ไม่มีข่าวคราวทางด้านดนตรีออกมาเลย

จนกระทั่งปี 1978 พวก เขาก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง รวมทั้งได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตเล็กๆใน ยุโรป ก่อนจะกลับเข้ามาในสตูดิโอเพื่อทำงานชุดใหม่หรือชุดที่ 8 ชื่อ In Througe the Out Door ออกวางจำหน่ายในปี 1979 และประสบกับความสำเร็จเช่นเดิม รวมทั้งขึ้นไปอยู่ อันดับ 1 ทั้งในอเมริกาและยุโรป...จากความสำเร็จของอัลบั้มชุดนี้ และการ ห่างเหินจากการทัวร์คอนเสิร์ตใหญ่ๆมานาน พวกเขาก็วางโปรแกรมที่จะออกทัวร์ คอนเสิร์ตกันอีกหน คราวนี้ออกทัวร์กันยาวนานหน่อย โดยวางแผนไว้ว่าจะสิ้นสุด การทัวร์ในเดือนพฤษภาคม ปี 1980 กันโน่นเลย ในขณะเดียวกันก็เริ่มวางแผนที่จะทำอัลบั้มชุดใหม่ควบคู่กันไปด้วย แต่ แล้วเหตุการณ์ณ์ร้ายแรงที่ไม่คาดฝันก็เกิดกับพวกเขาจนได้ คราวนี้ค่อนข้าง สาหัสสากรรจ์หน่อย เพราะเกิดกับสมาชิกของวงเอง โดยในเช้าของวันที่ 25 กันยายน 1979 มี คนพบศพจอห์น บอนแฮม มือกลองเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนของตัวเอง และแพทย์ที่มา ชันสูตรศพก็ระบุว่าจอห์น บอนแฮมเสียชีวิตเนื่องจากสำลักอาเจียนของตัวเอง เพราะในระยะหลังๆจอห์น บอนแฮมดื่มเหล้าจัดมาก...เมื่อขาดมือกลองทางวงก็ ได้ปรึกษาหารือกัน และสรุปว่าจะไม่หามือกลองคนใหม่มาแทนจอห์น บอนแฮม

ดังนั้นในเดือนธันวาคม ปี 1979 ทาง วง Led Zeppelin ก็ออกมาแถลงขอยุบวงอย่างเป็นทางการ เป็นการปิดฉากและตำนาน อันยิ่งใหญ่ของวงฮาร์ด ร็อคก้องโลก ที่ตั้งแต่เริ่มวงจนถึงประกาศเลิกวง ไม่ มีการเปลี่ยนหรือเพิ่มสมาชิกเข้ามาในวงแม้แต่คนเดียว

บทเพลง Stairway to Heaven ผลงานของ Led Zeppelin

!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น