Leo Sayer (ลีโอ เซเยอร์ ) กับเพลง More Than I Can Say

ลีโอ. เซเยอร์ (Leo Sayer)  หรือ ชื่อจริง เจอราดส์ ฮิว เซเยอร์ Gerard Hugh Sayer
เกิด เมื่อ วันที 21 พ.ค. ปี 1948 เป็นนักร้อง , นักแต่งเพลง ชาวอังกฤษ เริ่มมีผลงานและโด่งดังในช่วงยุค 1970 มีเพลงติดท็อปซิงเกิ้ล และอัลบั้ม.    ผลงาน ที่เป็นรู้จัก ได้แก่ More Than I Can Say เพลงเก่าของ บ๊อบบี้ วี นักร้องป๊อปไอดอลแห่งยุค 1960 ที่เคยติดชาร์ตเพลงบิลบอร์ด ฮอต 100 และดังมากในอังกฤษ

FACE BOOK สถานีวิทยุชุมชนนครสวรรค์ตก HAPPY RADIO FM 89.5 MHZ.
https://www.facebook.com/nakhonsawantokradio/

ประวัติวงดนตรีคณะ เดอะ สคริปท์ THE SCRIPT

คณะ เดอะ  สคริปท์  THE SCRIPT
   
        2 หนุ่ม รูปหล่อ จากบอยแบนด์ไอริช ชื่อ มาย ทาว์น  ซึ่งประสบความสำเร็จพอสมควรในไอแลนด์บ้านเกิด  ประกอบด้วย มาร์ค ชีแฮน และ แดเนี่ยล โอ'โนก็ฮิว ร่วมกันก่อตั้งวง เดอะ สคริปท์ ในปี 2001
        ภายหลังได้แยกวงจาก มาย ทาว์น ทั้ง 2 ได้มาใช้ชีวิตใน ลอส แอนเจลิส เรียนรู้ และทำงาน หาประสบการณ์ในฐานะโปรดิวเซอร์ ก่อนจะกลับสู่ดับลิน มาร่วมกับ เกลน เพาเวอร์ ตั้งวง เดอะ สคริปท์ ใช้เวลาและกระบวนการคิดสร้างซุ่มเสียงทางดนตรี อันเป็นเอกลักษณ์ ของตนเองได้สำเร็จ ผสมผสานอาร์แอนด์บี และ ป็อป-ร็อค ที่นวลละเอียดเข้าด้วยกัน
        พวกเข้าเรียกดนตรีของตนว่า  "เซลติค โซล"
        The Script  ในปี 2008 เป็นอัลบั้มชุดแรกของวง ได้รับคำวิจารณ์ชื่นชมจากผู้ฟังและนักวิจารณ์ มีเพลง  "We Cry"  ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก และได้รับเลือกจากศิลปินใหญ่ พอล แม็คคาร์ทนี่ย์ และ U2 ให้เป็นวงเปิดคอนเสิร์ท
        ปี 2011 กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มใหม่ Science & Faith    ฟังเสียงร้องสูง และกังวานใส ของ แดเนี่ยล โอ'โดโนก์ฮิว  หนึ่งในเสียงร้องที่ดีที่สุดในแวดวงป็อป-ร็อค ยุคนี้


***ขอบคุณข้อมูล จาก นิตยสารสีสัน ***
                       

ประวัติวงดนตรีคณะ URIAH HEEP

URIAH HEEP

            ถือกำเนิดโดย 2  หนุ่ม คือ  Mick Box  สมาชิกถาวรในตำแหน่งมือกีตาร์ และนักร้องนำ กับ David Byron หรือชื่อจริง David Garrick นักร้องนำรุ่นแรก ที่อยู่กับวงระหว่างปี 1969-1976 ทั้งคู่เล่นดนตรีร่วมกันในนาม The Stalkers ตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 1960  ก่อนจะชวนนักดนตรีอีก 2 คน มาร่วมงานในชื่อ Spice ระยะสั้นๆ คือ  Paul Newton  มือเบส และ Alex Napler มือกลอง และภายหลังได้ Ken Hensley มาเป็นมือคีย์บอร์ด จึงได้เปลี่ยนชื่อวงมาเป็น  URIAH  HEEP  ที่มีที่มาจากตัวละครตัวหนึ่งในวรรณกรรม อมตระ "David Copperfield " ของ  Charles Dickens
             เป็นวงร็อก ที่เปลี่ยนนักดนตรีค่อนข้างเปลือง ตั้งแต่ปี 1971-1980 URIAH HEEP  เปลี่ยนมือกลอง 5 คน มือเบส  4 คน และมือโซโลกีต้าร์ 2 คน
             อัลบั้มแรก Very 'eavy....Very  'umble  ในอเมริกาใช้ชื่่ออัลบััั้มชื่อเดียวกับชื่อวง มีเพลงดัง Gypsy
และ I"LL Keep On Trying   อัลบั้มเปิดตัวในชาร์ท สูงสุดอันดับที่ 186
             อัลบั้มชุดที่ 2 "Salisbury"  ในปี 1971  เปิดตัวด้วยเพลงดัง Bird of Prey  ความยาว 16 นาที กับวงออร์เคสตร้าขนาดย่อม 24 ชิ้น ผสมผสานกับนักร้องประสานเสียง และเสียงร้องนำกับท่อนโซโลแบบโพรเกรสสีฟร็อก ที่น่าจดจำ
           ปี 1971 อัลบั้ม Look At Yourself มีเพลงดัง July Morning
           และอัลบั้ม Demons And Wizards ปี 1972  มีเพลงดัง The Wizard ,Easy Livin
           และสุดยอดอัลบั้มในช่วงปลายปี 1972 อัลบั้ม The Magician's  Birthday ที่นักวิจารณ์บางคนยกย่องว่าเป็นการพัฒนาก้าวข้ามขอบเขตของความว่างเปล่า ทางดนตรีเฮฟวีเมทัลดั้งเดิม ไปสู่เนื้อหาที่หนักแน่น และจินตนาการบรรเจิดระดับเดียวกับ Dark Side Of The Moon ของ Pink Floyd และ Close To The Edge  ของ YES ด้วยเพลง Sunrise,Spider Woman ,Sweet Lorraine

      ***ข้อมูลจากหนังสือ  ร็อก ช็อค โลก โดย ขาบ  เจรียง

ราคาค่าโฆษณาประจำเดือน สิงหาคม 2556 - กันยายน 2556

ค่าโฆษณาทางสถานีวิทยุชุมชนนครสวรรค์ตก HAPPY RADIO FM  89.5 MHZ.   จ.นครสวรรค์
ประจำเดือน สิงหาคม 2556 - กันยายน 2556

            1. โฆษณาในรายการวิทยุ แฮปปี้เรดิโอ   1 ชั่วโมงต่อวัน ตลอดระยะเวลา 1 เดือน
                 โดยมีดีเจ พูดประชาสัมพันธ์  2 ครั้ง และเปิดสปอต 2 ครั้ง ต่อวัน
                 ช่วงเวลาที่เลือกได้
                    9.00 - 10.00   น.
                  10.00 - 11.00   น.
                  14.00 - 15.00   น.
                  15.00 - 16.00   น.

            2. แถมเปิดสปอตช่วงต้นชั่วโมงหลังข่าว  อีกวันละ 3 ครั้ง ตลอดระยะเวลา  1 เดือน

                   ค่าใช้จ่ายต่อเดือน 3,000  บาท

 หมายเหตุ. -
          1.  ค่าโฆษณาในรายการ ปกติ ชั่วโมงละ 4,000  บาท ต่อเืดือน
          2.  ค่าสปอตวิทยุ ต้นชั่วโมง ครั้งละ 25  บาท

สนใจลงโฆษณาติดต่อ คุณนรินทร์ สวนศิลป์พงศ์ 081-1725974 E-mail : happyradio_2555@hotmail.com

ประวัติศิลปิน ร็อด สจ๊วร์ท ROD STEWART

ร็อด  สจ๊วร์ท (Rod Steward)

         หลังจากหันไปร้องเพลงสแตนดาร์ด หลายชุดตั้งแต่ปี 2002-2010 ร็อด สจ๊วร์ท ก็กลับมาร้องเพลงที่เขาแต่งขึ้นใหม่ อีกครั้งในปี 2013
          อัลบั้มใหม่ที่ชื่อว่า   TIME  ประกอบด้วย 11 เพลงที่ ร็อด  แต่งร่วมกับพรรคพวก และ 1 เพลง ของทอม เวทส์  ด้วยความที่เขาไม่ได้ออกผลงานลักษณะนี้มานาน และเขียนเพลงเพื่อร้องเอง  Time  จึงเป็นอัลบั้มที่มีความสดอยู่ในเนื้องานสูง แต่ ความสดของร็อคสตาร์วัย 68 ปี ห่างไกลจากความแปลกใหม่ เพราะซุ่มเสียงโดยรวมของผลงานชุดนี้อยู่ในสไตร์ที่ ร็อด สจ๊วร์ท ถนัด ซึ่งไม่แปลกและไม่ใหม่แต่อย่างใด
          โปรดิวซ์โดยตัวของเขาเอง และได้ เควิน ซาวิการ์ ร่วมดูแลการผลิตด้วย เควิน นั้นทำงานกับร็อด มาตั้งแต่ ยุค 1980 เป็นได้ทั้งมือคีย์บอร์ด ,นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ เหตุผลที่ทั้งคู่ร่วมงานกันอย่างต่อเนื่องน่าจะเป็นเพราะ เควิน รู้ดีว่า ร็อด ต้องการนำเสนอสิ่งใด 7 เพลงในผลงานชุดนี้ที่เขาร่วมแต่ง ยืนยันความไว้วางใจที่ ร็อค มีให้
        สิบกว่าปีที่เดียวที่ ร็อด สจ๊วร์ท ไม่ได้แต่งเพลงใหม่เพื่อบันทึกเสียง แต่อัลบั้ม TIME  มี 11 เพลงใหม่ เกี่ยวกับชีวิตของเขา และ ร็อด ตั้งใจมาก ในการเล่าเรื่องเหล่านี้ให้แฟนๆ ฟัง มีเพลงที่น่าสนใจ คือ Can"t Stop Me Now , Brighton Beach ซึ่งกล่าวถึงชีวิตวัยหนุ่มและสาววัย 17 ปี อันเป็นที่รัก และเพลง It"s Over เป็นเพลงทำนองเศร้า มีออร์เคสตร้าหนุนหลัง เนื้อหาว่าด้วยชีวิตคู่ที่ล้มเหลว  ฯลฯ ลองหามาฟังดูนะครับ


ข้อมูลจาก นิตยสารสีสัน ปีที่ 24 ฉบับที่ 10-2556  คอลัมภ์ วิจารณ์-แนะนำ

ประวัติศิลปินคณะ พารามอร์ (Paramore)

คณะพารามอร์ ( Paramore )

    ก่อตั้งที่ เทนเนสซี เมื่อปี 2004 เป็นการรวมกลุ่มเพื่อนในวัยเรียนที่ชอบดนตรี โดยสาวน้อยวิลเลี่ยมส์ และสองพี่น้อง จอช และแซ็ก ฟาร์โร และมือเบส เจอเรมี เดวิส   ชื่อวงมาจากชื่อมารดา ของจอชกับแซ้ก ที่ตรงกับคำว่า  Paramore ที่แปลว่า Secret Lover
       มีผลงานชุดแรก  All We Know Is Falling  ในปี 2005 และอัลบั้มชุดที่ 2 Riot ในปี 2007 และอัลบั้มชุดที่ 3 Brand New Eyes ในปี 2009 เป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของวงเงิน ขึ้นอันดับที่  2 ในบิลบอร์ดชาร์ต  ภายหลัง จอช และแซ็ก ได้แยกออกจากวงไป ทำให้สมาชิกยุคปัจจุบัน ประกอบด้วย
     -เฮย์ลี่ย์   วิลเลียม นักร้องนำ
     -เจอเรมี   เดวิส  เบส
     -เทย์เลอร์ ยอร์ก กีต้าร์
   
      อัลบั้มล่าสุดปี 2012 ชื่อ Paramore ขึ้นอันดับที่ 1 ในบิลบอร์ด และ ชาร์ตทางฝั่งอังกฤษ ไอร์แลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอเมริกาใต้หลายประเทศ

***ข้อมูลจาก ดนตรี วารี วิไล มติชนสุดสัปดาห์***

ตัวอย่างรายการวิทยุ HAPPY RADIO FM 89.50 MHZ.

รับฟังตัวอย่างรายการวิทยุ ของสถานีวิทยุชุมชนนครสวรรค์ตก  HAPPY RADIO FM 89.50 MHZ.

ดำเินินรายการ โดย คุณอัญชลี
17 เมย. แฮปปี้ 09.00 - 10.00 น..mp3

ประวัติศิลปิน จอช โกรแบน JOSH GROBAN

จอช โกรแบน  JOSH GROBAN

     จอรัช วินสโลส์ "จอช" โกรแบน เกินปี 1981 ที่ลอสแองเจลิส เป็นยิว ที่มีเชื้อสายรัสเซียน และโปล ส่วนทางแม่ มีเชื้อสายนอร์เวย์  เริ่มร้องเพลงในโรงเรียน  ผ่านการฝึกในอบรมในแคมป์ดนตรี ไฮสกูลทางด้านศิลปะและเรียนการแสดงในมหาวิทยาลัย แต่ออกมาก่อนเพื่อเอาจริงในอาชีพร้องเพลง ครูสอนร้องเพลงของโกรแบน นำเอาเทปที่เข้าร้องเพลงจากละครเพลง แฟนทอม ออฟ ดิโอเปร่า ให้กับ เดวิด ฟอสเตอร์ โปรดิวเซอร์ ชื่อดังซึ่งให้โกรแบน เป็นสแตนด์อิน ซ้อมร้องเพลงคู่กับ เซลีน ดิออน ในเพลงที่จะร้องในงานแกรมมีปี 2008 แทน แอนเดีย โบเซลลี ที่ป่วยอยู่

        และนำไปสู่การเซ็นสัญญาออกผลงานชุดแรก JOSH Groban  ในปี 2001 และก็ปรากฏว่า ผลงาน 45 ชุดแรก ได้รับการรับรองว่ามียอดขายหลักล้านชุด  ในปี 2007 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเบอร์ 1 ของศิลปินขายดีที่สุดในอเมริกา ด้วยยอดขาย 21 ล้านชุดทั่วประเทศ และจนปัจจุบันนี้ ยอดไปอยู่ที่ 25 ล้านชุดทั่วโลก

        อัลบั้มชุดใหม่ปี 2013 ชุดที่ 6 มีชื่อว่า All That Echoes ประเดิมด้วยอันดับที่ 1 ในชาร์ตบิลบอร์ด

โฆษณาวิทยุในจังหวัดนครสวรรค์ ง่ายมากๆ

                                            โฆษณาสถานีวิทยุในจังหวัดนครสวรรค์ 

1) เลือกสถานีวิทยุที่ต้องการ

   1.1)  สถานีวิทยุชุมชนนครสวรรค์ตก  HAPPY RADIO FM 89.5 MHZ
           เป็นสถานีวิทยุที่เปิดเพลงสากลอย่างเดียว มีกลุ่มเป้าหมาย เป็น กลุ่มคนวัยทำงาน นักธุรกิจ  นักเรียน นักศึกษา ในเขตจังหวัดนครสวรรค์.
   1.2) สถานีวิทยุ โมเดิร์นไลฟ์ FM 90.5 MHZ.
           เปิดเพลงไทยสากล เจาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไป
   1.3)  สถานีวิทยุฟรีดอม เรดิโอ FM 101.0 MHZ.
           เปิดเพลงลูกทุ่งไทย เจาะกลุ่มประชาชนทั่วไป วงกว้างในเขตจังหวัดนครสวรรค์
    1.4) สถานีวิทยุ ดีไลท์ เอฟเอ็ม FM 99.5 MHZ.
           เปิดเพลงไทยสากล เพลงลูกทุ่ง แนวเพลงหลากหลาย เจาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป

  2.)  กำหนดค่าใช้จ่าย งบประมาณ

        2.1)   อยากให้คนฟังได้ฟังตลอดทั้งวันควรเลือกเป็น ลงสปอตโฆษณาวิทยุ ซึ่งจะเป็นทุกต้นชั่วโมงหลังข่าว  ค่าใช้จ่ายคิดเป็นครั้งๆละ 25 บาท  เช่น วันละ 4 ครั้งๆ ละ 25 บาท  เป็นเงินวันละ 100 บาท เหมาะสำหรับต้องการโฆษณา โปรโมชั่นสินค้าระยะสั้นๆ
        2.2)   ลงโฆษณาในรายการวิทยุ  โดยจะมี ดีเจ พูดประชาสัมพันธ์สินค้าให้ และเปิดสปอตให้ จะคิดค่าใช้จ่ายเหมาะจ่ายเป็นเดือน คือ เดือนละ 2,000 บาท ต่อครึ่งชั่วโมง ออกอากาศ ทุกวัน จันทร์ - ศุกร์

3.) การติดต่อ  คุณนรินทร์ สวนศิลป์พงศ์  โทร. 081-1725974 และ 056-330582
 e-mail : happyradio_2555@hotmail.com

โฆษณาทางวิทยุชุมชนนครสวรรค์ตก

ต้อนรับลมหนาว ต้อนรับปีใหม่ กับโปรโมชั่นสำหรับการลงโฆษณา เดือน  มกราคม   2556 -   มีนาคม   2556 

หากคุณต้องการลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ธุรกิจของคุณให้เป็นที่รับทราบของกลุ่มคนฟังในจังหวัดนครสวรรค์ โดยเฉพาะอำเภอเมือง และอำเภอใกล้เคียง เช่น อำเภอโกรกพระ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอบรรพตพิสัย อำเภอชุมแสง ลองโปรโมชั่นระยะสั้นสำหรับการโฆษณาทางสถานีวิทยชุมชนนครสวรรค์ HAPPY RADIO FM 89.5 MHz ดังนี้

รายการ HAPPY RADIO   FM 89.50 MHZ. 

มีช่วงเวลาให้เลือก 4 ช่วง คือ  9.00 -10.00 น. , 10.00 -11.00 น และ 14.00-15.00 น. ,15.00-16.00 น.
ออกอากาศ วันละ  1 ชั่วโมง  ทุกวันจันทร์-ศุกร์  ระยะเวลา 1 เดือน

รูปแบบรายการ เพลงสากล ทั้งเก่า และใหม่
-เปิด spot 30 วินาที 2 ครั้ง/วัน ในรายการ
-พูดประชาสัมพันธ์ 2 ครั้ง/วัน ในรายการ

แถมเปิดสปอตโฆษณา 30 วินาที่ ต้นชั่วโมงหลังถ่ายทอดข่าว จำนวน 5 ครั้ง/วัน หรือ 150 ครั้ง/เดือน
ในช่วงเวลา 8.00 , 11.00 , 14.00 , 15.00 , 16.00 น.

ค่าใช้จ่ายเหมาจ่ายต่อเดือน 2,500 บาท

หมายเหตุ.-
1. ) ลงโฆษณา 3 เดือนขึ้นไป ผลิตสปอตโฆษณามูลค่า 500 บาท ให้ฟรี
2. ) สนใจลงโฆษณา ติดต่อ คุณนรินทร์ สวนศิลป์พงศ์ 081-1725974 หรือ 056-330582
       e-mail : happyradio_2552@hotmail.com

รับฟังตัวอย่างรายการ  HAPPY RADIO FM  89.50 MHZ.  ดำเนินรายการโดย คุณอัญชลี

รับฟังตัวอย่างรายการ HAPPY RADIO FM 89.5 MHZ. ดำเนินรายการโดย คุณเอกชัย

ประวัติศิลปิน ลินคิน พาร์ก (LINKIN PARK)

ประวัติศิลปิน  ลินคิน พาร์ก (LINKIN PARK)

              ลินคิน พาร์ก นำอัลบั้มชุดที่ 5   Living Things  (2012) ประเดิมการออกวางตลาด ด้วยอันดับที่ 1 ในชาร์ตบิลบอร์ดยอดขาย 2.2 แสนชุด ก่อนจะตกลงมาอันดับที่ 5

                 ลินคิน พาร์ก ก่อตั้งที่ อกูรา ฮิลส์ แคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 1996 แจ้งเกิดจากอัลบั้มแรก Hybrid Theory  ที่ออกเมื่อปี 2000 ตามมาด้วย  Meteora  ปี 2003 เข้าอันดับ 1 ในชาร์ต อัลบั้มบิลบอร์ด หลังจากนั้น คือการออกทัวร์รอบโลก วงการตนตรียกย่องให้เป็นวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เคียงบ่าเคียงไหล่กับวงอย่าง โอเอซิส โคลด์เพลย์

                ออกผลงานชุดที่ 3 ชื่อ  Midnight ในปี 2007 จับจองอันดับที่ 1 ในชาร์ตอัลบั้มบิลบอร์ด ตามมาด้วย อัลบั้มชุดที่ 4 ชื่อ  A Thousand Sun ออกปี 2010 ประเดิมด้วยอันดับ 1 ยอดขาย 2.4 แสนชุดก่อนจะมาถึงอัลบั้มชุดใหม่  Living Things    วงขายผลงานไปแล้วมากกว่า 50 ล้านชุด และได้แกรมมี่ไปแล้ว 2 รางวัล

             สมาชิกปัจจุบัน ประกอบด้วย  ร็อบ บอร์ดอน  กลอง เพอร์คัสชั่น,แบรด เดลสัน กีต้าร์,เดฟ ฟาร์เรล เบส,โจ ฮาห์น คีย์บอร์ด เทิร์นเทเบิล, ไมก์ ชิโนดะ แร็พเปอร์,และเชสเตอร์  เบนนิงตัน ร้องนำ

              ดูแลการผลิตโดยเจ้าเดิม คือ ไมก์ ชิโนดะ กับ ริก รูบิน ซึ่งทำหน้าที่ร่วมกันใน 2 อัลบั้มก่อนหน้านี้ คือ  Minutes to Midnight  เมื่อปี 2007 กับ A Thousand Suns  เมื่อปี 2010 แนวดนตรีชุดใหม่ ทางวงบอกว่าพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่ได้ทำมาแล้ว ใน 2-3 ชุดหลัง ภาพรวมของ    Living Things ใช้บริการของแร็พเพอร์ชิโนดะมากขึ้น และใช้แร็พเป็นเซ็ฯเตอร์ในหลายเพลง หนักหน่วงด้วยกีตาร์เวิร์ก,คอรัสหนาแน่น โปรแกรมอิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาสร้างความฟู่ฟ่าอย่างผิดหูผิดตา ทางวงอธิบายว่า แม้จะสร้างซาว์ดหนักๆ ขนาดนี้ แต่ก็พยายามไม่ให้เป็นเมทัลมากเกินไป

     ***ขอบคุณ ข้อมูลจาก มติชนรายสัปดาห์ ดนตรี วารี วิไล****   

ตัวอย่างรายการวิทยุ HAPPY RADIO

ตัวอย่างรายการวิทยุ  HAPPY RADIO 

เทปรายการ  HAPPY RADIO FM 89.5 MHZ. ช่วงเวลา 10.00-11.00 น. ดำเนินรายการโดย คุณอัญชลี
ค่าใช้จ่ายสำหรับการโฆษณา เป็นเงิน  2,500 บาท/เดือน
**สนใจติดต่อ คุณนรินทร์ สวนศิลป์พงศ์ โทร.081-1725974 E-Mail : happyradio_2555@hotmail.com

ประวัติศิลปิน เจสัน มราซ Jason Mraz

ประวัติศิลปิน  เจสัน มราซ Jason  Mraz

          เจสัน มราซ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในศิลปินเพลงป๊อบที่มีพรสวรรค์ และความสามารถทางดนตรีที่โดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ เขาได้รับ 2 รางวัลแกรมมี่ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงถึง 6 รางวัล ในปี 2008 เพลง  I’m Yours  จากอัลบั้ม We Sing, We Dance. We Steal Things   เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ในประวัติศาสตร์วงการเพลงป๊อบ ที่ขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งไปทั่วโลก และได้รับรางวัลเพลงยอดเยี่ยมแห่งปี 2010 จาก ASCAP และยังครองอันหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด HOT 100  นานที่สุดในรอบ 51 ปีอีกด้วย อัลบั้มนี้มียอดขายถล่มทลายทั่วโลก และได้รับการยกย่องให้เป็นอัลบั้มโกลด์ แพลตตินัม และ มัลติแพลตตินัมประจำศตวรรษที่ 21

           ผลงานเพลงอัลบั้มล่าสุดของเขา LOVE IS A FOUR LETTER WORD เปิดตัวด้วยเพลง I Won’t Give Up  ที่ไพเราะและความหมายโดนใจแฟนเพลงทั่วโลกสุดๆ สามารถขึ้นอันดับหนึ่งประจำสัปดาห์ในคลื่นวิทยุเพลงแนว Hot Adult Contemporary ก่อนจะขยับขึ้นเป็นเพลงฮิตติดอันดับท็อป 10 ของคลื่นเพลงแนวเดียวกันนี้ และยังมียอดขายกว่า 100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ครองอันดับ 1 ของชาร์ตบิลบอร์ดประเภทเพลงระบบดิจิตอลเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ และนับว่าเป็นเพลงดิจิตอลเพลงแรกที่ขึ้นอันดับหนึ่ง จากนั้นไม่นานเพลงนี้ก็ขึ้นอันดับหนึ่งของชาร์ต Top Songs และ Top Pop Songs ใน iTune และทยอยขึ้นชาร์ตเพลงดิจิตอลทั่วโลกในเวลาต่อมา ซึ่งอัลบั้มนี้ได้โปรดิวเซอร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่หลายรางวัล คือ Joe Chiccarelli  เป็นผู้ควบคุมการผลิต จึงถือได้ว่าเป็นอัลบั้มที่สมบูรณ์ที่สุดของมราซ และเป็นผลงานเพลงอัลบั้มแรกของเขาที่ออกมานับตั้งแต่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับอัลบั้ม  We Sing, We Dance. We Steal Things  เมื่อปี 2008
           ทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกในชื่อ TOUR IS A FOUR LETTER WORD โดยจะเริ่มต้นที่ทวีปเอเชีย ได้แก่ เกาหลีใต้, มาเลเซีย, อินโดนิเซีย, ฮ่องกง, ไต้หวัน และ สิงคโปร์ สำหรับแฟนเพลงชาวไทยจะได้พบกับกับศิลปินหนุ่มเจ้าของรางวัลแกรมมี่คนนี้ได้ใน “เจสัน มราซ ทัวร์ อีส อะ โฟว์ เล็ตเตอร์ เวิร์ด ไลฟ์ อิน แบงคอก” วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายนนี้ ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี

ประวัติศิลปิน เลดี้ กาก้า (Lady Gaga)

ประวัติศิลปิน เลดี้ กาก้า (Lady Gaga)

            เลดี้ กาก้า (Lady Gaga) หรือ โจแอน สเตฟานี่ เจอมานอตต้า (Joanne Stefani Germanotta) เกิดวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ.1986 (พ.ศ.2529) ที่ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พ่อและแม่เป็นนักลงทุนทางอินเทอร์เน็ต เชื้อสายอิตาเลียน ในวัยเด็ก Lady Gaga เข้าเรียนที่ Convent of the Sacred Heart ในแมนฮัตตัน และเรียนต่อด้านดนตรีที่โรงเรียนศิลปะทิสช์ แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก แต่ลาออกก่อนจะสำเร็จการศึกษา ซึ่งหลังจากลาออกจากโรงเรียน Lady Gaga ก็ได้ย้ายออกจากบ้าน แต่ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ที่แมนฮัตตัน และทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ 

          สำหรับเส้นทางสายบันเทิงของ Lady Gaga นั้น เรียกได้ว่าฝ่าฟันอุปสรรคมาพอสมควร โดยตอน Lady Gaga อายุ 19 ปี เธอได้มีโอกาสเซ็นสัญญาเป็นนักร้องกับค่ายเดฟ แจม ต่อมากลับถูกยกเลิกสัญญากลางคัน แต่เพราะความสามารถที่มีไปเข้าตา Akon นักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ชื่อดัง จับเธอมาเข้าสังกัด อินเตอร์สโคปเรคอร์ดส (ต้นสังกัดปัจจุบัน) ตอนอายุ 20 ปี โดยให้เธอทำงานในฐานะนักแต่งเพลงให้กับค่าย โดยเขียนเพลงให้กับศิลปินอย่าง Pussycat Dolls ก่อนที่มองเห็นถึงศักยภาพในด้านการร้องเพลงของเธอ และคิดว่าเธอมีรัศมีและความสามารถเพียงพอที่จะมีผลงานเพลงเป็นของตัวเองได้ พร้อมทั้งเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Lady gaga ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาเพลง "Radio Ga-Ga" ของ ควีน ซึ่งร็อบ ฟูซารี หนึ่งในทีมโปรดิวเซอร์ เป็นคนตั้งให้เธอ

          ต่อมา Lady Gaga เริ่มทำอัลบั้มแรกในปี 2008  มีชื่อว่า The Fame ร่วมกับโปรดิวเซอร์ เรดวัน โดยอัลบั้มวางแผงในเดือนสิงหาคม ปี 2008 มีซิงเกิลฮิตอย่าง"Just Dance" และ "Poker Face" ซึ่งทั้งสองซิงเกิลสามารถขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งใน Billboard Chart ทำสถิติเป็นศิลปินคนแรกในรอบเกือบ 10 ปี ที่ซิงเกิล 2 ซิงเกิลแรกขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งในชาร์ต นอกจากนี้ "Just Dance" ยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี สาขาเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยมอีกด้วย

                เลดี้ กาก้า ออกอัลบั้มมาแล้ว 3 ชุดคือ The Fame (2008), The Fame Monster (2009) และ Born This Way (2011) มีซิงเกิ้ลที่ฮิตไปทั่วโลกอย่าง Just Dance, Poker Face, Bad Romance, Telephone, Alejandro, Born This Way, Judas, The Edge of Glory  อัลบั้มทั้ง 3 ทำยอดขายไปแล้วกว่า 23 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก ในขณะที่ซิงเกิ้ลก็ขายทั่วโลกถล่มทลายไปแล้วกว่า 64 ล้านแผ่น ซึ่งทำให้เลดี้ กาก้า กลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่ทำยอดขายได้สูงสุดตลอดกาล นอกจากนี้เธอยังเป็นเจ้าของ 5 รางวัลแกรมมี่ และ 13 รางวัล เอ็มทีวี มิวสิค อวอร์ดส์ และคว้ารางวัลใหญ่ๆ จากอีกหลายสถาบัน

          ถึงแม้ภาพลักษณ์ของ Lady Gaga จะถูกมองเป็นนักร้องสาวสุดมั่นแห่งยุค แต่งตัวสไตล์หลุดโลก ชอบปาร์ตี้สังสรรค์ แถมยังมีภาพหลุดที่มักชอบทำท่าทำทางแผลง ๆ ออกมาว่อนเน็ตประจำ และล่าสุดเธอก็ออกมายอบรับว่าตัวเองเป็นพวกไบเซ็กชวล แต่ Lady Gaga กลับยืนยันว่าจริง ๆ แล้วตัวเธอไม่ค่อยชอบท่องราตรีหรือดื่มหนัก เธอกลับบอกว่าเธอเป็นสาวบ้างาน เพราะฉะนั้น ถ้าจะให้ออกไปปาร์ตี้ สู้เอาเวลาไปทำงานจะดีกว่า  ที่สำคัญเธอก็ไม่เห็นว่า การเที่ยวกลางคืนจะสนุกตรงไหน พร้อมกับเผยว่าเธอก็อยากมีชีวิตครอบครัวเหมือนคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป แถมยังอยากเป็นคุณแม่กับเขาเหมือนกันนะ ซึ่งตอนนี้ Lady Gaga กำลังคบหากับนักดนตรีหนุ่ม สปีดี้ 

สำหรับเหล่าสาวก Little Monsters ทั้งหลาย เพราะคุณกำลังจะได้พบกับ   ราชินีเพลงป๊อป คนใหม่แห่งยุค  ที่จะมาระเบิดคอนเสิร์ตสุดอลังการ ครั้งแรกในเมืองไทย กับคอนเสิร์ต Lady Gaga The Born This Way Ball Live in Bangkok  ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม 2555

ประวัติศิลปิน Taio Cruz

ประวัติศิลปิน Taio Cruz

             ศิลปินหนุ่มจากลอนดอน Taio Cruz  เป็นทั้งนักแต่งเพลง,โปรดิวเซอร์ ,แร็พเปอร์  สร้างชื่อด้วยการเป็นนักแต่งเพลและโปรดิวซ์ผลงานเด่นๆ ให้กับศิลปินชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น  Cheryl Cole ,Britney  Spears ,Justin  Timberlak , Usher,Sugababes,Pussycat Dolls รวมถึงมีส่วนในความสำเร็จแบบถล่มโลกในเพลง Umbrella ของสาว  Rihanna

              หลังจากอยู่ตัวในฐานะเบื้องหลังแล้ว จึงได้ออกมายืนแถวหน้าอย่างเต็มตัว  เหมือนกับโปรดิวเซอร์หลายๆ คน อย่าง  Timbaland   หรือ David Guetta

             ทำผลงานของตัวเองมาก่อนหน้านี้ 2 ชุด เริ่มจากอัลบั้ม  Departure ในปี 2008 ประสบความสำเร็จไม่น้อยในอังกฤษ ดามมาด้วยอัลบั้มชุดที่ 2 Rokstarr ในปีต่อมา ประสบความสำเร็จทั้งฝั่งอังกฤษและอเมริกา โดยเฉพาะเพลง  Break Your  heart กับ Dynamite  ที่ดังไปทั่วโลก รวมถึงเพลง Higher ที่ได้ Kylie Minoque มาร่วม  Featuring  และล่าสุดอัลบั้มชุดที่ 3 ชุดใหม่(2012) ชื่อ TY.O  ซึ่งแต่เดิมจะให้ชื่อว่า  Hangover  กับดนตรีในแนวฮิปฮอป ผสมอิเล็ดโทร และบีตดนตรีเต้นรำที่เป็นสูตรสำเร็จความฮิตของกระแสดนตรีในช่วงนี้ โดยได้แร็พเปอร์ชื่อดัง  Flo Rida มาร่วมแร็พเสริมความเด่น ด้วย

***ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสาร  FHM****  

ประวัติ ไมเคิล เชงเกอร์ (Micheal Schenker) หนึ่งใน UFO

ประวัติ ไมเคิล เชงเกอร์ (Micheal Schenker) หนึ่งในสมาชิก UFO

                         ในบรรดาเพลงร็อกระดับคลาสสิก ที่ได้รับการยกย่องของวงการว่าเป็นแบบอย่างให้กับศิลปินในรุ่นต่อมา ต้องมีชื่อของเพลง Rock Bottom ของคณะ UFO อยู่ในใจสาวกร็อกเกอร์ชาวไทยอยู่ในอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน ด้วยท่อนริฟฟ์เปิดเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ โครงสร้างดนตรีที่แข็งแกร่ง และขาดไม่ได้คือท่อนโซโลที่ทั้งสวยงามและเร้าร้อน ที่ปลดปล่อยออกมาจากการสร้างสรรค์ของศิลปินที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคนิกและจิตนาการ จนเป็นที่มาของบทเพลงที่เป็นอมตะของวงการเพลงโลก

                     มันอมตะเสียจนทุกคนที่เล่นกีตาร์ จะต้องตั้งเป้าด้วยการเล่นช่วงอินโทรของเพลงนี้ให้ได้กันทั้งนั้น และหวังว่าวันหนึ่งจะสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้ที่สามารถลีดท่อนโซโลที่แสนเมามันและหมดจดนี้ได้ แน่นอนว่า ผู้ที่ได้กลายเป็นครูของนักกีตาร์มาแล้วรุ่นต่อรุ่นรายนี้ไม่ใช่ใครนอกจาก ไมเคิล เชงเกอร์ ตำนานมือกีตาร์ชาวเยอรมัน ผู้ที่ใช้เวลากว่า 3 ทศวรรษในถนนดนตรี ด้วยการจารึกชื่อกับผลงานอมตะร่วมกับวงชั้นยอดมาแล้วมากมายทั้ง แมงป่องผยองเดช Scorpions, UFO และ MSG วงดนตรีที่เขาสร้างขึ้นด้วยบารมีของเขาเองโดยเฉพาะ Rock Bottom อาจจะโดดเด่นด้านความเมามัน แต่ถ้าแถมแฟนเพลงร็อกบ้านเรา ว่าชอบเพลงอะไรของ UFO มากที่สุด ร้อยทั้งร้อยคงหนีไม่พ้น High Flyer เพลงอคูสติกบัลลาด ที่ติดหูแฟนเพลงร็อกเมืองไทยมากว่า 20 ปี ขนาดที่ว่าถ้าไปผับร็อกเมืองไทยแล้วไม่ได้ฟังเพลงนี้แสดงว่าไปไม่ถูกที่

                          แม้จะได้ชื่อว่า โด่งดังมาจากวง UFO แต่วงร็อกวงแรกที่เขาแจ้งเกิดก็คือ Scorpions สุดยอดวงร็อกเยอรมันของรูดอล์ฟ เชงเกอร์ มือกีตาร์ผู้พี่ ซึ่งไมเคิลได้ใช้ Scorpions เป็นที่เพาะบ่มประสบการณ์ทางดนตรี จนกระทั้งฝีมือของเขาไปสะดุดตาของสมาชิก UFO วงร็อกชั้นดีจากอังกฤษ ที่กำลังต้องการมือกีตาร์เพื่อการแสดงในเยอรมันอยู่พบดิบพอดี UFO นี้เองที่เขาได้แผลงฤทธิ์การเล่นกีตาร์ระดับที่หาไม่ได้จากฝีมือเด็กหนุ่มวัย 19 คนไหน ที่ทั้งเร้าร้อน หมดจด และทรงพลัง ดังที่ปรากฏอยู่ในทุกๆ แทร็คของอัลบั้มเปิดตัวของเขา Phenomenon เมื่อปี 1974 ซึ่งผลงานชุดนี้เองที่ช่วยยกระดับ UFO จากวงร็อกอังกฤษฝีมือดี กลายเป็นวงมหากาฬระดับแถวหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ปูรากฐานปรากฏการณ์ NWOBHM แก่วงการเมทัลในต้นยุค 80

                          ในเวลาต่อมา หลังจากสร้างชื่อกับ UFO มาตลอดยุค 70 แล้ว ก้าวต่อไปของไมเคิล เชงเกอร์      คือการสร้างโปรเจ็กท์ที่ตัวเขาเป็นผู้กำหนดรูปแบบของดนตรีได้อย่างแท้จริง MSG หรือ The Michael Schenker Group จึงได้กำเนิดขึ้น แม้ว่าจะไม่คลาสสิกเท่ากับวงที่เขาจากมา แต่มันก็อุดมไปด้วยผลงานดีๆ ที่แฟนเพลงไม่ควรมองข้ามมากมายทั้ง In To The Arena, Armed and Ready, Ready To Rock, On And On, Captain Nemo และเพลงที่ยังฝังใจสาวกอยู่ทุกวันนี้ Rook Will Never Die

                     สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของไมเคิล เชงเกอร์ ที่ติดตาแฟนเพลงอย่างดีก็คือกีตาร์ Gibson Flying V อันโดดเด่น ที่เขาได้เป็นของขวัญจากพี่ชายเมื่อยังเป็นเด็กจนเป็นแรงบันดาลในเส้นทางดนตรีอยู่ทุกวันนี้ สำหรับสายกีตาร์ร็อกแล้ว นอกจากแรนดี โรดส์แล้ว ก็มีเฮียไมเคิล เชงเกอร์เนี่ยแหล่ะที่เล่น Flying V ได้สะเด็ดสะเด่าที่สุด ขนาดป๋าออซซียังเคยออกปากชวนไมเคิล เชงเกอร์มาร่วมวงมาแล้ว หลังจากแรนดี โรดส์ต้องมาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางเครื่องบินเมื่อต้นยุค 80

                      และในปี 2006 นี้ เขาได้ออกอัลบั้มใหม่ล่าสุด ฉลองครบรอบ 25 ปีของในวงการเพลงด้วยอัลบั้ม Tales of Rock & Roll ที่จะมาพร้อมกับ World Tour ของเขา

***ที่มา  ผู้จัดการออนไลน์***

ประวัติศิลปิน ยิม คลาสส์ ฮีโร่ (GYM CLASS HEROES)

GYM CLASS HEROES เป็นดนตรีลูกผสมฮิป-ฮ็อป/แร็พ/ร็อค/ฟังค์ จากนิวยอร์ค อเมริกา เป็นวงดนตรีที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว เคยได้รับรางวัลในสาขาศิลปินฮิป-ฮ็อป ช่วงปี 2550-2552 ภายใต้การนำของ เทวี่ แม็คคอย ตอนนี้ ยิม คลาสส์ ฮีโร่ มีอัลบั้มชุดใหม่ ที่ชื่อ The Papercut Chronicles II มีเพลงเด่น อย่างเช่น Stereo Hearts ซึ่งมี อดัม เลอวีน นักร้องนำจาก MAROON 5 มาร่วมร้องด้วย และได้ ไรอัน เท็ดเดอร์ จาก วัน รีพับลิค มาเป็นศิลปินรับเชิญใน เพลง The Sighter ด้วย ***ข้อมูลจาก THE SEASON MAGAZINE***

ประวัติ จอสส์ สโตน Joss Stone

จอสส์ สโตน Joss Stone

Joss Stone เป็นนักร้องโซลรุ่นใหม่ที่ก้าวขึ้นมาเป็นดาวประดับวงการเมื่อ 8 ปี ที่แล้ว ด้วยวัยเพียง 16 ปี ในตอนนั้นหญิงสาวผิวขาวชาวอังกฤษ ที่เสียงร้องของเธอตรงกันข้ามกับสีผิว เธอมีชื่อจริงว่า จอส ซีลีน อีฟ สโตเคอร์ เติบโตมาในครอบครัวที่อบอวลกลิ่นสำเนียงอเมริกันโซล และอาร์แอนด์บี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อริธา แฟรงคลิน
จอส สโตน เริ่มเป็นที่รู้จักในบ้านเกิด เมื่อชนะเลิศการประกวดร้องเพลงของ บีบีซี ในปี 2001 พรสวรรค์ของเด็กสาววัย 14 กลายเป็นที่หมายตาของเหล่าโปรดิวเซอร์ และเซ็นสัญญากับ เอส-เคิร์ฟ เรคอร์ด เธอลาออกโรงเรียน-ด้วยความเห็นชอบของผู้ปกครอง พร้อมกันนั้นก็เปลี่ยนนามสกุลเป็น สโตน มี The Soul Sessions เป็นผลงานชุดแรกในอีกสองปีถัดมา ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ยอดขายและตัวรางวัลจากสถาบันดนตรีต่างๆ
จากนักร้อง สโตน ขยับไปจับปากกาแต่งเพลงกับเขาครั้งแรกใน Mind,Body&Soul อัลบั้มชุดที่ 2 ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างดี เช่นเดียวกับยอดขาย และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี่ ถึง 3 สาขา และอีกสองรางวัล จาก บริท อะวอร์ดส์
Introducing Joss Stone อัลบั้มต่อมาที่มีซุ่มเสียงเป็นอาร์แอนด์บีร่วมสมัย กลับไปได้ไม่สวยเท่าสองอัลบั้มชุดแรก และมี Colour Me Free! เป็นงานชุดที่ 4 ย้อนกลับไปหาราก “โซล” ดั้งเดิมของเธอ ที่ได้รับคำชม แต่ยอดขายตกลงไปมากที่เดียว
สโตน เคยร่วมงานกับศิลปินระดับตำนานอย่าง เจฟฟ์ เบ็ค ,เทาเวอร์ ออฟ เพาเวอร์ และริงโก สตาร์ ล่าสุดเธอก่อตั้งบริษัทเพลงของตัวเอง ชื่อ สโตนัด เรคอร์ดส์ ซึ่งกำลังจะมีอัลบั้มใหม่ ที่โปรดิวส์โดย เดฟ สจ๊วร์ท

***ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสาร สีสัน ฉบับ 1 ปีที่ 23 ปี 2554*****

ประวัติ เจมส์ บลันท์ ( JAMES BLUNT)

ประวัติ เจมส์ บลันท์ ( JAMES BLUNT)

เจมส์ บลันท์ มีชื่อเต็มๆ ว่า เจมส์ ฮิลเลียร์ บลันท์ หนุ่มอังกฤษวัย 37 ปี อดีตนายทหารประจำการที่โคโซโว ใช้เวลาจากหน้าที่การงานมาแต่งเพลง จนกลายเป็นอัลบั้ม BACK TO BEDLEM อัลบั้มชุดแรกในปี 2005 กับเพลงฮิตอย่าง “You’re Beautiful “ มีรางวัลรับประกันความสามารถมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บริทอะวอร์ดส์ หรือ รางวัลนักแต่งเพลง ไอวอร์โนเวลโล อะวอร์ดส์ รวมถึงการได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัล แกรมมี่ และการเป็นอัลบั้มขายดีที่สุดในช่วงทศวรรษ 2000 ของอังกฤษ ทั้งหมดเกิดขึ้นจากอัลบั้ม BACK TO BEDLEM

บลันท์ มีผลงานตามมาอีก 2 ชุด ALL THE LOST SOULS (2007) ซึ่งมีอยู่ในบรรยากาศดนตรีโฟล์คร็อค บรรยากาศเหงาหม่น เหมือนชุดแรก แต่ SOME KIND OF TROUBLE อัลบั้มชุดที่ 3 ที่วางจำหน่ายในปี 2010 กลับมีสีสันที่น่าตื่นเต้นเปี่ยมชีวิตชีวากว่าเดิมชัดเจน

ล่าสุด เจมส์ บลันท์ ได้มาเปิดแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2554 ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ที่ผ่านมา


***ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสาร สีสัน ฉบับ 1 ปีที่ 23*****

ประวัติ ศิลปิน โคลบี้ คัลเลต์ (Colbie Caillat)

โคลบี้ คัลเลต์ (Colbie Caillat)

สาวป๊อปอเมริกัน เกิดในปี 1985 ที่ มาลิบู แคลิฟอร์เนีย เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคนวงการดนตรี เคน คัลเลต์ พ่อของโคลบี้ เคยร่วมโปรดิวส์อัลบั้ม Rumours และ Tusk สองอัลบั้มดังปี 1977 และ 1979 ของ ฟลีตวู้ด แม็ก
ตอนเด็กๆ มีชื่อเล่นว่า Coco ที่กลายมาเป็นชื่ออัลบั้มแรกของเธอ เริ่มเล่นเปียนโนตั้งแต่เด็กๆ จนอายุ 11 ปี ฟังเพลง Killing Me Softly ของ THE FUGEES ทำให้เธอสนใจการเป็นนักร้องและเริ่มเรียนร้องเพลง
คัลเลต์ เคยเข้าประกวดในรายการ อเมริกัน ไอดอล แต่ตกรอบ 2 ครั้ง แต่แจ้งเกิดจากเว็บไซต์ My Space ด้วยเพลง Bubbly ซึ่งมีคนดาวน์โหลดไปมากกว่า 1 ล้านครั้ง ออกอั้ลบั้มชุดแรก COCO ปี 2007 มีเพลงฮิต Bubbly ,Realize มียอดขายเกิน 2 ล้าน และ ดูเอ็ตกับ เจสัน มราซ ในเพลง Lucky คว้ารางวัลแกรมมี่ไปครอง
อัลบั้มชุดที่ 2 ชื่อ Breakthrough ออกมาในปี 2009 ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี่สาขา Best Pop Vocal Album
ร้องแบ็กกราวด์ และร่วมแต่งเพลงในอัลบั้ม Fearless ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่ได้รางวัลหลักของแกรมมี่ คือ อัลบั้มแห่งปี 2010
อัลบั้มชุดที่ 3 All of You ประเดิมด้วยอันดับที่ 6 ในชาร์ตบิลบอร์ด อัลบั้มชุดนี้ คัลเลต์ ยังแต่งเพลงเอง โดยมีทีมแต่งเพลงมาช่วยงานรวมถึงนักดนตรีหนุ่ม เจสัน ยัง หวายใจมาช่วยเขียนเพลงด้วย

***ข้อมูลจาก มติชนสุดสัปดาห์ -ดนตรี วารี วิไล ***

ประวัติศิลปิน บริทนี่ย์ สเปียร์ส BRITNEY SPEARS

ประวัติศิลปิน บริทนี่ย์ สเปียร์ส (BRITNEY SPEARS)

บริทนี่ย์ เริ่มงานแสดงในฐานะนักร้องและนักเต้นรำตั้งแต่เด็ก ปรากฏตัวในหนังโฆษณาหลายชิ้น และละครเวทีหลายเรื่อง ก่อนเข้าร่วม เดอะมิคกี้ เม้าส์ คลับ ของดิสนี่ย์ ร่วมกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในเวลาต่อมา เช่น จัสติน ทิมเบอร์เลค,คริสติน่า อะกีเลร่า และเคอรี่ รัสเซลล์
อายุ 17 ปี ออกซิงเกิ้ลแรก “ Baby One More Time” จากการแต่งเพลงของ แม็กซ์ มาร์ติน ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ด และอัลบั้มชุดแรกในปี 1999 อัลบั้มติดอันดับที่ 1 นาน 6 สัปดาห์ติดต่อกัน มีเพลงฮิต “(You Drive Me) Crazy ,Sometime ,From The Bottom Of My Heart”
Oops! ..I Did It Again อัลบั้มชุดที่ 2 ในปี 2000 เข้าชาร์ทอันดับ 1 เช่นเคย มีเพลงฮิต คือ Oops! ..I Did It Again , Lucky ,Stronger และ Don’t Let Me Be The Last To Know
และปลายปี 2001 อัลบั้ม Britney เป็นอัลบั้มชุดต่อมาขึ้นอันดับ 1 มีเพลงฮิต คือ I’m A Slave 4 U ,I’m Not A Girl,Not Yet A Women และ Overprotected
ปี 2002 เธอเล่นหนัง Crossroads และเป็นดารารับเชิญในหนัง Austin Power : Goldmember ของไมค์ เมเยอร์ และมีเพลงประกอบภาพยนตร์ Boys
ปี 2003 มีอัลบั้ม In The Zone อัลบั้มติดอันดับ 1 มีเพลงฮิต คือ Toxic ,EveryTime และ Me Against The Music
ปี 2204 เธอแต่งงานกับ เควิน เฟเดอร์ไลน์ อดีตนักเต้นของเธอ มีลูกชาย 2 คน ก่อนจะจับด้วยการหย่าร้าง
ปี 2007 มีอัลบั้ม Blackout เป็นอัลบั้มที่ขายได้น้อยที่สุดของเธอแต่มีเพลงฮิต 3 เพลงติดอันดับ 40
ปี 2008 อัลบั้ม Circus มีซิงเกิ้ล Womanizer ขึ้นอันดับ 1
ปี 2011 อัลบั้ม Femme Fatale อัลบั้มขึ้นอันดับ 1 ในสัปดาห์แรก และมี Single “Hold It Against Me “ ขึ้น อันดับ 1 ทำให้ เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่มีอัลบั้มอันดับ 1 ทันทีที่ออกวางขายถึง 6 ชุด และอีก 1 ชุดติดอันดับ 2

***ขอขอบคุณข้อมูลจาก THE SEASON MAGAZINE****

อัตราค่าสนับสนุนสถานีวิทยุชุมชนนครสวรรค์ตก จังหวัดนครสวรรค์

สถานีวิทยุชุมชุนนครสวรรค์ตก จังหวัดนครสวรรค์
HAPPY RADIO FM 89.5 MHZ

เป็นสถานีวิทยุชุมชนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ในท้องถิ่นในจังหวัดนครสวรรค์และใกล้เคียง พร้อมทั้งนำเสนอเรื่องราวสาระความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ให้ความบันเทิงทางด้านเสียงเพลง ข่าวสารในแวดวงการเพลงต่างๆ ขอบเขตการกระจายเสียงครอบคลุมในพื้นที่อำเภอเมืองนครสวรรค์ และอำเภออื่นๆบางส่วน

สถานีวิทยุชุมชนนครสวรรค์ตก ก่อตั้งเมื่อปี 2548 ตั้งอยู่ที่ 196/690 ม. 1 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 60000 โทร. 056-330582 หรือ 081-1725974 E-mail: happyradio_2554@hotmail.com หัวหน้าสถานีวิทยุชุมชนนครสวรรค์ตก จังหวัดนครสวรรค์ HAPPY RADIO FM 89.5 MHZ. คือ คุณนรินทร์ สวนศิลป์พงศ์

ผังรายการ สถานีวิทยุชุมชนนครสวรรค์ตก HAPPY RADIO FM 89.5 MHZ.

7.00 - 7.30 น. ถ่ายทอดข่าวจากส่วนกลาง สถานีวิทยุแห่งประเทศไทย
7.30 - 9.00 น. เพลงสากลฟังสบาย
9.00 - 10.00 น. เพลงสากลเก่าๆ พร้อมสาระความรู้ด้านสุขภาพ โดย คุณอัญชลี สร้อยสด
10.00 - 11.00 น. เพลงสากลเก่าๆ พร้อมสาระความรู้ด้านสุขภาพ โดย คุณอัญชลี สร้อยสด
12.00 -13.00 น. ถ่ายทอดข่าวจากส่วนกลาง สถานีวิทยุแห่งประเทศไทย
13.00 - 14.00 น. เพลงสากลฟังสบาย
14.00 - 15.00 น. เพลงสากลร็อคเก่าๆ ดำเนินรายการโดย คุณเอกชัย สวนศิลป์พงศ์
15.00 - 16.00 น. เพลงสากลเพราะๆใหม่ล่าสุดจากUKและUSAโดย คุณเอกชัย สวนศิลป์พงศ์
16.00 - 17.00 น. เพลงสากลฟังสบาย
17.00 - 18.00 น. เพลงสากลคันทรี่
18.00 - 19.00 น. เพลงสากลแนวฮิบฮอบ แดนซ์
19.00 - 19.30 น. ถ่ายทอดข่าวจากส่วนกลาง สถานีวิทยุแห่งประเทศไทย
19.30 - 21.00 น. เพลงร็อครุ่นเก่าและใหม่
21.00 - 22.00 น. เพลงสากลสไตร์ Easy & Listening

**หมายเหตุ.- สามารถลงสปอตโฆษณา ได้หลังข่าวทุกต้นชั่วโมง

ค่าสนับสนุนการประชาสัมพันธ์

1.) ค่าประชาสัมพันธ์ในรายการ เดือนละ 2,500 บาท/ชั่วโมง
2.) ค่าเปิดสปอตประชาสัมพันธ์ ครั้งละ 25 บาท/ครั้ง
3.) ค่าผลิตสปอตประชาสัมพันธ์ 500 บาท/ชิ้น
4.) ค่าผลิตสปอตรถแห่ประชาสัมพันธ์ 600 บาท/ชิ้น
5. ) บริการรถแห่ในจังหวัดนครสวรรค์ ค่าใช้จ่ายวันละ 800 บาท
 ***ภาพประกอบรถแห่ และ  GPS  ติดตามรถแห่***

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ คุณนรินทร์ สวนศิลป์พงศ์ โทร. 056-330582 หรือ 081-1725974
E-mail : happyradio_2554@hotmail.com
Blog : nakhonsawantokradio.blogspot.com

ประวัติศิลปิน อะเดล ADELE

ประวัติศิลปิน อะเดล ADELE

อะเดล Adele หรือชื่อเต็มว่า อะเดล ลอรี บลู แอดกินส์ ( Adele Laurie Blue Adkin) เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 1988 ทางตอนเหนือของลอนดอน เป็นศิลปินหน้าใหม่ที่มาแรงที่สุดของเกาะอังกฤษ หลังจากออกซิงเกิล Hometown Glory เธอก็สามารถคว้ารางวัล Brit Awards ตามด้วยซิงเกิลที่ 2 Chasing Pavements ที่กระโดดขึ้นชาร์ตอังกฤษในอันดับที่ 2 และรับรางวัล Sound of 2008 จาก BBC ในอีกหนึ่งเดือนต่อมา ซึ่งทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นก่อนที่เธอจะออกอัลบัมเต็มชุดแรก ที่ชื่อว่า 19 คว้ารางวัลแกรมมี่ ปี 2009 ในสาขา Best New Artist และ Best Female Pop Vocal Performance
ในวัยเรียน อะเดล ย้ายไปอยู่โรงเรียนบริตสกูล ย่านเซลเฮิร์สท ที่มีรุ่นพี่ร่วมสถาบันอย่างเอมี ไวน์เฮาส์, สมาชิกวง The Feeling และเคต แนช เริ่มต้นความสำเร็จ ผ่าน Myspace ที่เพื่อนเธอสร้างโฮมเพจให้ ในปี 2004 แต่ก็ต้องรอจนปี 2006 กว่าค่ายเพลงจะเห็นความสามารถของเธอ
อะเดลได้รับความสนใจจากค่ายเพลงมากมาย แต่เธอเลือก XL ซึ่งเป็นค่ายอิสระและมีจุดเด่นในศิลปินที่มีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นวงร็อคอย่าง The White Stripes หรือแร็ปเปอร์ ดิซซี ราสกาล ที่เหมาะกับศิลปินที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวอย่างอะเดล และ XL วางจำหน่ายอัลบัมแรกของเธอที่ชื่อว่า 19 เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ล อกหักทว่าสวยงามเกินบรรยาย เพลง Chasing Pavements ที่ได้รับเสียงตอบรับดีเยี่ยมจากทั้งอังกฤษ และรวมถึงประเทศไทย
การแสดงใน BRIT Awards ด้วยเพลง Someone Like You งานจากอัลบั้มชุดที่ 2 ชื่อ 21 ซึ่งขึ้นอันดับ 1 ที่ UK ทำให้เธอได้รับความสนใจอย่างมากในอเมริกา จนอัลบั้มสามารถขึ้นอันดับ 1 ใน Chat ฝั่งอเมริกา ได้ คืนวันอาทิตย์ที่ 12 ก.พ 255 ที่ Staple Center ในนคร Los Angeles รัฐ California มีงานประกาศผลรางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 54 และงานไว้อาลัยต่อ Whitney Houston ผู้เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ก่อนหน้าการประกาศรางวัลเพียงหนึ่งวัน งานนี้ Adele นักร้องหญิงอังกฤษวัย 23 ปี คือผู้ชนะในงานประกาศผลรางวัล Grammy ครั้งที่ 54 โดยคว้ารางวัลสำคัญ 6 รางวัลรวมถึงอัลบั้มแห่งปี อัลบั้มเพลงป๊อบยอดเยี่ยม “21” และเพลงแห่งปี “Rolling in the Deep”

ประวัติวงดนตรีคณะ แอโรสมิธ

ประวัติวงดนตรีคณะ แอโรสมิธ ( AEROSMITH)

Aerosmith เป็นวงที่ประสบความสำเร็จสูงสุด วงหนึ่งในยุค 70 พวกเขาเป็นวงฮาร์ดร็อค ที่มีพื้นฐานดนตรี แบบบลูส์ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากวงโรลลิ่ง สโตนส์ และเล็ด เซ็พพลิน โดยมี สตีเว่น ไทเลอร์ นักร้องนำและ โจ เพอร์รี่ มือกีต้าร์ ร่วมกันก่อตั้งวงขึ้นในปีค.ศ. 1970 ในช่วงสิ้นปีนั้น ทอม แฮมิลตัน มือเบส, แบรด วิทฟอร์ดมือริธึ่มกีต้าร์ และโจอี้ เครเมอร์ มือกลอง ก็เข้ามาสมทบ

วงดนตรีจากบอสตันวงนี้ เซ็นสัญญากับบริษัทแผ่นเสียง โคลัมเบีย เร็คคอร์ดส ในปี 1972 และ1 ปีให้หลังก็ออกผลงานชิ้นแรกในนาม Aerosmith อัลบั้มดังกล่าว มีเพลงเด่นเป็นเพลงช้าที่ทรงพลังอย่าง Dream On ซึ่งขึ้นถึงอันดับที่ 59 ในอันดับเพลงป๊อป ของนิตยสารบิลบอร์ด อัลบั้มชุดต่อมาคือ Get Your Wings ออกขายในปี 1974 และติดอันดับ อัลบั้มของบิลบอร์ด อยู่นานถึง 86 สัปดาห์ อัลบั้ม Toys In The Attic ในปีค.ศ. 1975 เป็นอัลบั้มสร้างชื่อของ Aerosmith ด้วยความแรงของ สองซิงเกิ้ลเอกของอัลบั้มคือ Walk This Way กับ Sweet Emotion ทั้งสองเพลงขึ้นถึงอันดับ 10 และ 36 ตามลำดับ และตัวอัลบั้มเองก็ขึ้นถึงอันดับ 11 แต่อัลบั้มชุด Rocks ที่ออกขายในเดือนพฤษภาคม ปี 1976 เป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จสูงสุด เพราะขึ้นขึ้นถึงอันดับ 3 ช่วงปลายยุคทศวรรษที่ 70 และ 80 สมาชิกวง

Aerosmith เริ่มมีปัญหาเรื่องยาเสพติด หลังการลาออกของโจ เพอร์รี่ และแบรด วิทฟอร์ด สถานภาพของวงก็เริ่มง่อนแง่น แต่เมื่อสมาชิกดั้งเดิมของวง กลับมารวมตัวกันใหม่ในปี 1985 เพื่อทำอัลบั้ม Done With Mirrors อัลบั้มดังกล่าวก็ขึ้นถึงอันดับที่ 36 ทำให้การหวนคืนสู่อันดับเพลงของAerosmith กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการเพลงร็อค ถึงเวลานี้ น้อยคนที่จะสงสัยว่า Aerosmith จะยังคงสามารถออกอัลบั้ม ที่ประสพความสำเร็จได้เทียมเท่า หรือมากกว่าผลงานในยุคทศวรรษที่ 70 หรือไม่ ความสำเร็จครั้งใหม่เริ่มต้นเมื่อสตีเว่น ไทเลอร์ และ โจ เพอร์รี่ ที่เพิ่งออกจากสถานบำบัดผู้ติดยา นำเพลงเก่าของรัน ดีเอ็มซี คือ Walk This Way มาทำใหม่ และไต่ขึ้นถึงอันดับที่ 4 หลังจากการทำสัญญากับ เกฟเฟ่น เร็คคอร์ดส

Aerosmith เริ่มออกผลงานชุดแรกในสังกัดนี้ ในปี 1987 คือ Permanent Vacation ซึ่งมีเพลงฮิตอย่าง Angel (ขึ้นถึงอันดับ 3) และ Dude (Looks Like A Lady) (อันดับ 12) ปี 1993 Aerosmithกลับมา พร้อมกับความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยอัลบั้ม Get A Grip ซึ่งอยู่ในอันดับอัลบั้มของบิลบอร์ดนานถึง 92 สัปดาห์ และทำให้พวกเขามีเพลงที่ขึ้นถึงอันดับ 1 ได้เป็นครั้งแรก

ในปี 1998 วงที่ดูเหมือนจะไม่มีวันแก่วงนี้ก็ขึ้นถึงอันดับ 1 ในอันดับเพลงของ บิลบอร์ดอีกครั้ง ด้วยเพลง I Don't Want To Miss A Thing ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Armageddon จนถึงปี2001 พวกเขาก็ได้ออกอัลบั้ม jaded กับ sony music

ประวัติวงดนตรีคณะ สคิด โรว์ (Skid Row)

ประวัติคณะ สคิด โรว์ (Skid Row)

Skid Row เป็นวงฮาร์ดร็อก เฮฟวี่ เมทัล ด้วยดนตรีที่หนักหน่วง เข้มข้น เสียงร้องที่สูงและทรงพลัง โด่งดังมากในยุคปี 1988-2000 ตั้งวงกันในนิวเจอร์ซีย์ ปี 1986 โดย
ราเชล โบลัน (Rachel Bolan) มือเบส และ เดฟ ซาโบ (Dave “The Snake” Sabo) มือกีต้าร์ และต่อมาได้มือกีตาร์ สกอตตี้ ฮิลล์ (Scotti Hill) ร็อบ แฮมเมอร์สมิท (Rob Hammersmith)มือกลอง มาร่วมวง นักร้องนำยุคแรก คือ แมตต์ ฟัลลอน (Matt Fallon) ก่อนจะเปลี่ยนเป็น เซบาสเตียน บาก(Sebastian Bach)

ปี 1987 ห้าหนุ่มตระเวนเล่นดนตรีตามคลับทั่วฝั่งตะวันออกและได้พบกับ จอน บอง โจวี่ นักร้องนำวง Bon Jovi ซึ่งสนิทกับ ซาโบ ได้ช่วยเหลือให้ Skid Row ไปบันทึกเสียงกับค่ายแอตแลนติก

ปี 1989 เปิดตัวอัลบั้มแรกชื่อเดียวกับชื่อวง ประสบความสำเร็จทั่วโลก มีเพลงฮิตสุดร้อนแรง 3 เพลง ได้แก่
-18 and Life
- I Remember You
- Youth Gone Wild

โดยเฉพาะเพลง 18 and Life เป็นซิงเกิ้ลติดหูบรรดาสาวก เนื้อหาเข้มข้นหนักหน่วงมาก กล่าวถึงริกกี้เด็กหนุ่มเลือดร้อนที่ใช้ชีวิตเสเพลข้างถนนหลังถูกไล่ออกจาก โรงเรียน ทำตัวเหมือนขยะสังคม ดื่มเหล้า และรับจ้างทำงานไปวันๆ โดยดื่มหนักมากจนท้ายสุดยิงเพื่อนตัวเองตายและต้องติดคุกทั้งที่อายุเพียง 18 ปี

ความสำเร็จจากอัลบั้มแรกทำให้มีทัวร์คอนเสิร์ตแน่นตลอดปี ในปี 1991 เปิดตัวอัลบั้มที่ 2 ชื่อ Slave to the Grind ติดอันดับ 1 ของชาร์ตเพลงฮิตของอเมริกา จนได้เดินสายทัวร์รอบโลกข้ามปี สี่ปีต่อมาคลอดอัลบั้มที่ 3 Subhuman Race แต่ชื่อเสียงเริ่มซา เพลงไต่ขึ้นชาร์ตได้แค่อันดับ 40 เท่านั้น กระทั่งปี 1997 บากโดนไล่ออกจากวงหลังทัวร์คอนเสิร์ตกับวงระดับตำนานอย่าง Kiss เนื่องจากความก้าวร้าว เมา และควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้เกิดการผ่าตัดวง Skid Row ขนานใหญ่ มีการเปลี่ยนชื่อวงใหม่เป็น Ozone Monday ได้ ชอว์น แม็กคาเบ เข้ามาเป็นนักร้องนำคนใหม่